สูตรลดน้ําหนักจาก วิธีลดความอ้วนจาก 82 ลงมาสู่ 50 กิโลกรัม
สวัสดีจ้ะ คือเราออยากมาแชร์ประสบการณ์การวิธีลดน้ำหนักของเราที่เชื่อว่าทุกคนจะต้องทำได้แน่นอนเพราะว่า แบบเราไม่ได้มีกฎข้อบังคับ หรือ อะไรมากมาย เครื่องมือไรก็ไม่มี ใช้ชีวิตอยู่แบบเด็กหอพักที่ต้องการลดความอ้วน
ซึ่งมันเป็นไรที่จะว่าง่ายก็ง่ายนะ ดื้อรั้นหน่อยก็ได้ 5555555 แต่ว่ามันอยู่ที่ใจล้วนๆ
แล้วก็อีกอย่างที่ไม่รู้ว่าแปลกไหม เราหมดแรงบันดาลใจจากอะไรทั้งหมดเลย คนอื่นชอบถามคำถามว่าชอบใครเปล่าเลยพยายามลดบอกตรงๆตอนอ้วนไม่ได้ชอบใครเลย แค่วันนึงถ่ายรูปออกมาละ เห้ย!!? นี่ตัวฉันหรอ ... คือมันแบบ นะ เดี๋ยวตามไปดูรูป
เล่าเรื่องแนวทางลดความอ้วนตั้งแต่แรก
คือเป็นคนที่อ้วนมาแต่ว่าเด็กแล้ว อ้วนจากการกินเยอะแยะเองนี่ละ ก็อ้วนปกติแต่ว่าไม่ถึงขั้นมากมาย จนเริ่มมีจุดเปลี่ยนตอนเข้ามหาลัย
คือ อ้วนแบบมากๆเลย ชีวิตเปลี่ยนแปลงจากอยู่บ้านไปอยู่หอพัก กินไรก็อร่อยไปหมด ซื้อกินตอนไหนก็ได้ น้ำหนักช่วงนั้นรู้สึกจะ 75-76 กิโล ก็ยังไม่ได้มีทีท่าจะลดหรอก ก็กินๆๆๆต่อไป จนมีช่วงนึงเป็นปี 2 กินๆๆเยอะแบบรู้สึกตัวเลยว่ามาก กินข้าวครบทุกมื้อ ขนมก็กิน แต่ว่าดึกก็กินอีก มื้อดึกนะ เช่น โจ๊กคัพ+ไก่ทอด2 ชิ้น+ขนมจีบ คือ รู้ดีว่าตัวกินมากมายนะแต่ว่าหยุดไม่ได้จริงๆแล้วพอกลับบ้านด้วยสภาพที่อ้วนแบบนั้น พบใครที่บ้านก็ ทักว่าอ้วนมากกๆๆคางจะย้อยถึงยังหน้าบ้านละ คือแบบเห้ยย ทำตัวไม่ถูกเลย พอชั่งน้ำหนักที่บ้าน เจอตัวเลข 82.9!! เห๊ยย นี่อ้วนจนขึ้นเลข 8เลยหรอ .....
พอถึงวันกลับหอพักเลยมีความรู้สึกว่าจะทดลองลดดู .... ซึ่งก็ไม่ได้คิดจะจริง
เริ่มแรกเลยนะ น้ำหนักที่ชั่งน้ำหนักได้เป็น 82.9 กิโล
สูง 160 ซม. ความอ้วนที่เห็นได้ชัดที่สุดก็คือหน้าน้ำหนักปัจจุบันคือ 50 เป๊ะ กินมากหน่อยก็ 51-52 ช่วงเวลาในการลดความอ้วน ประมาณ 11 เดือน ได้ แต่ด้วยความที่เราไม่ได้ทำต่อเนื่องนะ มันเลยนานมีช่วงที่แบบว่ารู้สึกลดมามากพอแล้วหลังจากนั้นก็หยุด กลับมากินปกติ เลิกออกกำลังกาย เป็นอย่างนี้โดยประมาณ 2-3 ครั้ง รูปที่เห็นแล้วทำให้ต้องการลดก็คือ
นั่นแหละ น่าตกใจไหม
วิธีแรกที่เราเริ่มทำเลยนะ คือ งดอาหารเย็น วันแรกที่เริ่มลดก็คือในรูปนี่ละ ซัดพิซซ่าไปแล้ว หลังจากนี้ก็รู้สึก เห้ยเราก็ทนได้นี่หว่า ไม่ได้รู้สึกหิวเลยนะ อาจจะเป็นเพราะอ้วนมาก อาหารที่กินวันแล้ววันเล่าอาจจะยังเหลือให้ใช้พลังงานได้อีกเยอะ 55555
ก็เริ่มทำมาเรื่อยจำช่วงเวลาไม่ได้อะ อ้อ แล้วเพียงพอคิดว่าตัวเองเอาจริงเอาจังกับการลดความอ้วนแล้ว เลยไปซื้อเครื่องช่างน้ำหนักแบบดิจิตอล มองเห็นกันเป็นจุดๆไปเลย
มันดีเลิศ เลยนะ เราชั่งน้ำหนักทุกวัน จะได้ประมาณตัว 5555 แล้วครั้งนี้ทำมาเรื่อยๆจนถึง น้ำหนักลดไป 2 กิโล !! แบบมันพอใจนะ คนไม่เคยคิดจะสนใจน้ำหนักอะ
นี่คือน้ำหนักลดแล้ว 2 โล เย้เย้ คือเหลือ 80 กิโล
คือมันลดก็จริง แต่ว่ามองเห็นสภาพตัวเองละก็ยังไม่ไหว ก็ยังคงงดมื้อเย็นมาสักพัก แต่ว่าครั้งนี้ไปออกกำลังกายด้วย การออกกำลังของเราคือการวิ่ง
ไม่ สิ เราไม่ถึงขั้นวิ่ง เราทำแบบเดินเร็วๆเร็วปกติกับเร็วมาก สลับกัน เราไปวิ่งที่ฟิตเนสมหาลัย ความเร็วของเครื่องอยู่ที่ประมาณ 5.5-6.9 ไรแบบนี้
แล้วหลังจากนั้นก็มีปั่นจักรยานบ้างนะ บ้างจริงๆเวลาคอยเครื่องวิ่งตอนไปว่างก็ปั่นๆคอย มีภาพมายืนจนถึง
การออกกำลังกายเรามิได้มีกำหนดวันนะ คือว่างวันไหนก็ไป ส่วนใหญ่ก็จะว่าง ถ้าหากไม่ต้องทำงาน ไม่มีสอบ ก็จะไป
การออกกำลังกายของเราอีกแบบคือ ตีแบต มันสนุกสนานดีนะ โชคดีที่เพื่อนก็ไปตีด้วย
อ้อ ลืมบอกตอนลดความอ้วนนี่ เพื่อนก็เป็นส่วนสำคัญนะ เป็นปกติเราอยู่หอพักใช่ปะ แต่ละวันเป็นกินข้าวกับเพื่อน พอถึงเวลาที่เราจะลดความอ้วน
เรา ต้องบอกมันอย่างจริงจังเลย ว่า ไม่กินนะอาหารเย็น ร้านค้านมหรือไปกินของหวานไหนก็ห้ามชวน แรกๆก็ยังมีชวนบ้าง หลังๆเราไม่ไป เพื่อนนี่เงียบหายไปเลย 555
ครั้งนี้พอลดมาสักพักเราก็ปรึกษาพี่สาว พี่เราก็แนะนำให้เราไปดู รายการ good shape save cost ซึ่ง มันสุดยอดมาก !!
จริงนะ คือเราดูแล้วเรามีกำลังใจมากเลย ก็คือจะเน้นควบคุมเรื่องของการรับประทานอาหาร มากยิ่งกว่าบริหารร่างกาย ซึ่งปกติเราก็ออกอยู่แล้วละ
พอ ดูรายการนี้เราก็ กินแบบคำนวณแคลอรี่เลยละ จริงจังมากๆถ้าจะกินตอนเวลาเย็นคือก็จะต้องดูอะไรที่แคลอรี่น้อยๆพอเดี๋ยวนี้ก็เลยออกกำลังกายไม่ได้เป็นประจำ
ออกบ้างไม่ออกบ้าง บางอาทิตย์นี่หยุดไปเลย แต่ น้ำหนักก็ลดนะ ลงมาเหลือประมาณ 75-76 กิโล
คือทุกส่วนนี่มันแน่นไปหมดจริงๆ
หลังจากนั้นเราก็คุมแคลอรี่มาเรื่อยๆตลอดเลย ออกกำลังกายบ้าง แบบว่าอาทิตย์ละ 3-4 ครั้ง
แต่ถ้าอาทิตย์ไหนไม่ไปก็คือไม่ได้ไปเลยอาทิตย์นะ ถ้าหากจำไม่ผิด ช่วงประมาณเดือนมีนาเราหนัก 71 ซึ่งเป็นช่วงเริ่มเรียนซัมเมอร์
เราทดลองใช้สูตรพระเทพ แบบ 7 วัน น้ำหนักก็ลดประมาณ 3 กิโลนะ จำไม่ได้ว่าทำช่วงมีนาหรือเมษา ถือว่าไม่เยอะแยะ เพราะว่าอ่านจากสูตรเค้าบอกลด 7-8 โล
แต่ว่ามันเป็นระยะเวลาที่ทำให้เราลงถึงเลข 6!!! แบบ 68-69 เห๊ยยย มันฟินมากกกกก ไม่รู้ว่าเพราะอะไร 55555 พอใจที่ตัวเองพ้นจากเลข7 สักที
แล้วพอเดือนพฤษภาเราจำได้เลยหนัก 65 กิโล ..
ลงรูปใน facebook ช่วง หนัก 65 เพื่อนเริ่มทักเยอะแยะขึ้นว่าผอมบางลงป่าวๆรู้สึกดีมากเลยนะ
แล้วก็กังวลเบาๆด้วยเหตุว่า เดือนพฤษภาไปเที่ยวประเทศเกาหลี ประเทศญี่ปุ่น เกือบเดือนนึงเต็ม กลัวน้ำหนักขึ้นมากๆๆ
แต่ว่าไปแต่ละที่คือกินจัดเต็มนะ รู้สึกแบบ อุตส่าห์มานี่ท้องนา ... พอกลับมาไทย ชั่งน้ำหนัก ปรากฏว่า ไม่ขึ้นเลย !!!
ชอบใจม้ากกกกก พอกลับมาแล้วอยู่ในจุดอิ่มตัว เป็นรับประทานธรรมดา รับประทานเย็นรับประทานมืดค่ำ กินบุฟเฟ่ กระทั่งวันนึงชั่งน้ำหนักแล้ว 68 !!!
เห้ย คือไร ... ที่เราตั้งใจมาทำไปทำไม ? กลับมาจากเที่ยวน้ำหนักก็อุตสาห์ไม่ขึ้น มีเวลาลดทำไมไม่ตั้งใจ?
แบบวนในหัวเรามากกกกกก คิดออกว่าเริ่มลดจริงๆจังๆอีกทีช่วงเวลากลางเดือน มิถุนา
***คราวนี้เป็นสูตรโหดนะ***
เราลองทำเองแบบไม่ถามใครคือ
มื้อเช้า : โยเกิร์ต
เที่ยง : ไข่ต้ม 2ฟอง
เย็น : ผลไม้ (บางวันไม่กิน)
ตอน เย็นออกไปเดินเร็วๆรอบสวนสารธารณะ (สระพังทลายทองคำ) 2-3รอบ ทุกวัน!! เพราะเราว่างมาก อยู่บ้านมีแต่นั่งๆนอนๆออกไปขยับร่างกายซะหน่อย
ช่วงนั้นเราออกอยู่สองแบบคือ ว่ายน้ำกับวิ่งนี่ละ ไม่รู้ออกกำลังกายได้มากไหม แต่ว่าควบคุมอาหารนี่ได้ผลสุดๆๆ
เอ่อ .. แต่ว่าเราขอเตือนนะ ช่วงที่เราทำคือเราไม่ได้ทำไรเลยแต่ละวัน แบบงานบ้านหรือทำไรก็ไม่ได้ทำ แล้ว มันเป็นช่วงๆปิดภาคการศึกษา พวกเราทำพวกเราโอเค สหายพวกเราเคยทดลองทำแล้วมันหน้ามืด
คือบางครั้งอาจจะแล้วแต่คนอะ ใช้วิจารณญาณแล้วกันเน่อออออ
นั่นละ พอวันที่ 20 กรกฎา เราจำได้แม่น เพราะเรากำลังจะออกเดินทางไปค่ายกับเพื่อนๆสาขา เราเลยอุตสาหะรีบลดมาก 5555 แบบอยากมีการเปลี่ยนแปลงชัดๆ
น้ำหนักอยู่ที่ 58 กิโล ....... เห้ยมันคือเลข5แล้ว ....... ดีใจอะ
พอเปิดเทอม กลางๆเดือนสิงหาก็หนัก 58 อยู่ คือแบบ แต่งตัวเร่อร่าๆมากก เพราะเสื้อผ้าเปลี่ยนใหม่หมด เย้
เราก็กลับไปอยู่หอพัก ใช้ชีวิตปกติ กินข้าวอะไรก็ปกติ แต่ว่ามันยังทำเป็นนิสัยแบบตอนอยู่บ้านก็คือ กินน้อยอะหมายถึงถ้าหากกินข้าวอิ่มแล้วทีนี้คือ อิ่ม
ของหวาน ขนมเค้ก นม ถ้าไม่มีความอยากก็ไม่ได้กิน บางวันรู้สึกชิน กลางวันนั่งกินไข่ต้มก็มีบ้าง 555555
ทำให้น้ำหนักเราลดเองมาเหลืออยู่ที่ 55 กิโล .... มันดีอะแก (เปิดเทอมมาแรกๆไม่ได้ออกกำลังกายเลย)
สูตรลดน้ําหนัก
พอ น้ำหนัก 55 แบบคงที่แล้ว เราก็ทำการกินปกติ ออกแนวเริ่มปล่อยตัวปล่อยใจด้วย ฮ่าาา ก็กินของหวาน กินนม กินข้าวเยอะขึ้น แต่ว่าก็ไม่เท่าตอนอ้วนแหละ
แล้วคราว นี้อยู่ๆไปเรื่อยๆก็คิดว่า 55 ฉันก็ยังอวบๆอยู่เลยนะ เลยพยายามลด โดยการกลับมาควบคุมการกิน แบบจริงจังขึ้น แต่ว่าครั้งนี้เราไม่ใช้สูตรโหด
เนื่องจาก เราจำเป็นต้องเรียนหนังสือ ทำนู๊นนี่ เราทำเป็นแบบ กินพวกก๋วยเตี๋ยว สลัดผัก เกาเหลา ผลไม้ ไข่ต้ม วนๆอยู่แบบนี้ หากจะต้องกินข้าวจริงๆก็กินกับมากกว่า ข้าวก็แบ่งๆให้เพื่อนไป
ขณะนี้เราออกกำลังกายด้วยนะ ไปวิ่งตอนเช้า 40 นาที น่าจะอาทิตย์ละสองครั้งได้
นั่นละ ... น้ำหนักเราลดเหลือ 52 !! เย้ บอกตรงๆนะมันเริ่มลดยากแล้วตั้งแต่ 55 กิโล มา
พอ หนัก 52 เราก็ยังไม่ลืมเป้าหมายของเรา เราต้องการหนัก 45 !! คือรู้นะว่ามันย้ากกกยาก แต่ก็พยายามกระดึ้บๆให้ลดลงๆไปเรื่อยๆ คราวนี้มาถึงช่วงสอบ final ก็อยากจะลดหุ่นไปด้วยละ แต่ว่ามันก็จำเป็นต้องกินละเน้อะ ก็กินปกติ แต่ละมื้อส่วนมากแบบรีบกินรีบเสร็จจะได้ไปอ่านหนังสือ ก็ยังกินไข่ต้มอีกเช่นเคย มันอิ่มมากเลยนะ ไปทดลอง ... ก็จะกินแบบปกติ แต่ไม่มีเวลาไปหาของหวานมากินอะดิ หรือบางวันขี้เกียจออกไปข้างนอกมากๆแบบอยากนั่งอยู่กับที่ ก็กินแค่โยเกิร์ต ผลไม้ ขนมเล่นๆ(มันไม่ดีนะ) น้ำหนักก็ลดมาถึง 50 กิโลถ้วนบริบูรณ์
คือดีใจมากกกกกกกกกก อยากลดต่อ แต่ว่าติดตรงกลับมาบ้านนี่ละ ของกินอร่อย ไม่กิน พ่อแม่ก็ดูเป็นห่วง ฮร่าาาาาาา
ถึงเวลาจะต้องลงรูป after 30 กิโลที่หายไปแล้วใช่ปะ ? แต่ว่ารูปตอนก่อนลดเรามากกว่าตอนลดแล้วอีก ดูไหม ? ดูๆๆเราจะลง 555555
จำไม่ได้นะช่วงไหนมากแค่ไหน ดูสุ่มๆไป 55555 ปัญหาหลักสำหรับเราเลยนะ เราเป็นคนหน้าใหญ่ แก้มนี่ใหญ่มาก 555 น้ำหนักลดเท่าไรหน้าก็ยังอ้วนอยู่
หลังจากที่น้ำหนักหายไป 32 กิโล !!! จาก 82.9 ลงมาเหลือ 50 กิโล ..... เฮ้ !!
สรุปน้ำหนักตอนนี้เป็น 50 กินเป็นจำนวนมากหน่อยก็สัก51-52 แต่วันถัดมาก็อยู่ตอน 50 โลแหละ ..
นี่คือการเปลี่ยนแปลง เหมือนชีวิตหลังมรสุมมมมมม ฮ่าาา
No comments: